กระบวนการผลิต
ในการดำเนินงานปกติจะเป็นการส่ง API 1 มาจาก MRP เข้าระบบ Odoo แล้วระบบจะทำกระบวนการต่างๆให้อัตโนมัติ แต่หากต้องการดำเนินการด้วยวิธีการ Manual สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
การสั่งผลิต
Menu: Manufacturing > Operations > Manufacturing Orders
-
กดปุ่ม Create เพื่อสร้างใบสั่งผลิต (Manufacturing Order)
-
กรอกข้อมูลต่างๆ ดังนี้
-
ข้อมูลส่วน Header (ส่วนบนเอกสาร)
- (1) Product: เลือกสินค้าที่ต้องการผลิต
- (2) Quantity: จำนวนที่ต้องการผลิต
- (3) Bills of Material: สูตรการผลิตที่ต้องการใช้
- (4) Schedule Date: วันที่ผลิต
- (5) Responsible: ผู้รับผิดชอบ
-
Tab Components
- (1) Product: วัตถุดิบ/ส่วนประกอบ
- (2) To Consume: จำนวนวัตถุดิบที่จะใช้
- (3) UoM: หน่วยนับ
- (4) Analytic Account: Financial Dimension (project)
- (5) Analytic Tags: Financial Dimension (product line และ BOI)
- (6) Stock Negative: แสดงว่าในระบบวัตถุดิบติดลบหรือไม่ (ไม่สามารถแก้ไขได้)
-
Tab Work Orders เป็นหน้าต่างที่ใช้ในการกรอกรายละเอียดของ Station การผลิต และใช้ในการตั้งค่ามูลค่าของ Variance
-
Tab Miscellaneous กรอกข้อมูลดังนี้
- (1) Operation Type: ประเภทการดำเนินการ
- (2) Components Location: Location ของวัตถุดิบ
- (3) Finished Products Location: Location ของสินค้าสำเร็จรูป
- (4) Sorce: เลขที่เอกสารอ้างอิง (ถ้ามี)
- (5) Analytic Account: Financial Dimension (project)
- (6) Analytic Tags: Financial Dimension (product line และ BOI)
- (7) Stock Negative: แสดงว่าในระบบวัตถุดิบติดลบหรือไม่ (ไม่สามารถแก้ไขได้)
การกรอกข้อมูล
แนะนำให้กรอกข้อมูล Analytic Account และ Analytic Tags ก่อนที่จะกรอกข้อมูล Bill of Material เพราะว่าจะทำให้ระบบช่วย Default ข้อมูล Analytic Account และ Analytic Tags ในบรรทัดของ Components ให้
-
-
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ให้กด Save เพื่อบันทึกข้อมูล แต่ถ้าไม่ต้องการบันทึกให้กดปุ่ม Discard
-
ตรวจสอบข้อมูลใบสั่งผลิต ถ้ายังไม่ถูกต้องให้กดปุ่ม Edit แล้วแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องหลังจากนั้นกด Save แต่ถ้าถูกต้องแล้วให้กด Confirm เพื่อยืนยันใบสั่งผลิต
-
ระบบจะเปลี่ยนสถานะใบสั่งผลิตจาก Draft เป็น Confirmed และสร้างเอกสารเพื่อรอตัดวัตถุดิบ
กรณีที่สินค้าที่จะผลิตมีการ Tracking เป็น By Unique Serial Number หรือ By Lots
หรือสินค้าที่มี VIN Number และทราบข้อมูลในส่วนนี้แล้ว ให้ดำเนินการ ดังนี้
-
กดปุ่ม Edit เพื่อแก้ไขข้อมูล
-
เพิ่มข้อมูล Lot/Serial Number/VIN Number ที่ Lot/Serial Number แล้วกด Save
End.
การตัดวัตถุดิบ (RM → WIP)
Menu: Manufacturing > Operations > Manufacturing Orders
-
ค้นหาใบสั่งผลิตที่ต้องการทำการตัดวัตถุดิบ
-
เลือกใบสั่งผลิตที่ต้องการทำการตัดวัตถุดิบ
-
กดที่ Smart Button Transfer เพื่อ link ไปที่ใบตัดวัตถุดิบ
-
กดปุ่ม Edit เพื่อทำการแก้ไขข้อมูล
-
แก้ไขข้อมูลต่างๆ ดังนี้
-
ข้อมูลส่วน Header (ส่วนบนเอกสาร)
- (1) Contact: ชื่อคู่ค้าที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
- (2) Operation Type: ประเภทการดำเนินการ (ไม่สามารถแก้ไขได้)
- (3) Source Location: Location ต้นทาง (ไม่สามารถแก้ไขได้)
- (4) Destination Location: Location ปลายทาง (ไม่สามารถแก้ไขได้)
- (5) Related Sale Order: ใบสั่งขายที่เเกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
- (6) Created Date: วันที่สร้างเอกสาร (ไม่สามารถแก้ไขได้)
- (7) Scheduled Date: วันที่จะย้ายวัตถุดิบ
- (8) Deadline: Deadline ของวันที่จะย้ายวัตถุดิบ
- (9) Source Document: เลขที่เอกสารต้นทาง (ถ้ามี)
- (10) Exceptions: ข้อยกเว้นในการดำเนินการ (ไม่สามารถแก้ไขได้)
-
Tab Operations
- กดปุ่มขีดสามขีดขวามือสุดเพื่อให้ระบบแสดงหน้าต่าง Detailed Operation
- กด Add a line เพื่อแก้ไขข้อมูลวัตถุดิบที่ต้องการย้าย เมื่อแก้ไขข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม Confirm เพื่อบันทึกการแก้ไข แต่ถ้าไม่ต้องการบันทึกให้กดปุ่ม Discard
-
Tab Additional Info
- (1) Shipping Policy: เงื่อนไขการย้ายสินค้า
- As soon as possible: เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ไม่ต้องรอสินค้าครบ)
- When all products are ready: เมื่อสินค้าทุกอย่างครบแล้ว
- (2) Responsible: เลือกรายชื่อผู้รับผิดชอบ
- (1) Shipping Policy: เงื่อนไขการย้ายสินค้า
-
Tab Note
-
-
เมื่อแก้ไขข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ให้กด Save เพื่อบันทึกข้อมูล แต่ถ้าไม่ต้องการบันทึกการแก้ไขให้กดปุ่ม Discard
-
ตรวจสอบข้อมูลใบตัดวัตถุดิบ ถ้ายังไม่ถูกต้องให้กดปุ่ม Edit แล้วแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องหลังจากนั้นกด Save แต่ถ้าถูกต้องแล้วให้กด Validate เพื่อยืนยันการตัดวัตถุดิบ
-
ระบบจะเปลี่ยนสถานะใบตัดวัตถุดิบเป็น Done และบันทึกตัดวัตถุดิบ (RM → WIP)
End.